บทความดีๆ

        เหมือนท้องฟ้า ที่มีบางครั้งก็ประดับประดาด้วยก้อนเมฆสีขาวสดใส  บางคราวก็มีเมฆฝนทะมึนดำยามเช้า

        มีดวงตะวันสาดแสง แล้วกลางคืนก็มีแสงจันทร์สาดส่อง  มีหมู่ดาวให้เรามอง มีลูกโป่ง มีเครื่องบินให้เราดู

        ฟ้ายังเป็นฟ้าอยู่ ไม่ว่าเราจะมองเห็นอะไรบนท้องฟ้า หรือรู้สึกกับมันอย่างไร  ใจที่เป็นเช่นท้องฟ้า ก็อาจมีโน่นนั่นนี้ผ่านเข้ามาในบางเวลา บางเรื่องก็ผ่านไปไว บางเรื่องก็ต้องใช้เวลา

         รักษาใจให้เป็นดั่งท้องฟ้า ใจที่ใส ใจที่เบิกบาน

การตระหนักรู้ในตนเอง คือรากฐานของการเติบโตทางจิตวิญญาณและการพัฒนาส่วนบุคคล  แม้ว่าเราอาจะได้ยิน ได้ฟัง หรือได้อ่านมามากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่อะไรคือความหมายและวิธีการที่จะทำให้เกิดการตื่นขึ้นของการตระหนักรู้ในตัวเรา

หากเรื่องราวทางจิตวิญญาณ เริ่มต้นด้วยการกลับเข้าไปภายใน เพื่อค้นพบเอกลักษณ์อันจริงแท้ของตน 

เรื่องราวของการตระหนักรู้ในตนเอง ก็ควรเริ่มต้นที่จุดเดียวกัน  

การเดินทางกลับเข้าสู่ภายในเพื่อค้นพบว่าเราคือใคร  คุณค่าของเราคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่มีความหมายและให้เป้าหมายแก่ชีวิตของเรา

เป้าหมายที่แท้จริงของการเดินทางนี้ คือการพัฒนาตนเอง 

เป็นการทำให้ตัวเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยปรับปรุงการกระทำของเราให้ดีขึ้น  เป็นความกระจ่างอย่างสมบูรณ์ว่าจะสามารถนำเอาคุณค่าอันเป็นเนื้อแท้ของเราสะท้อนออกมาในชีวิตประจำวันของตนเองได้อย่างไร

การตระหนักรู้ในตนเอง แม้จะเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องสืบค้นเข้าไปภายในตนเอง แต่ผลสำเร็จของสิ่งนั้นกลับสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อผู้คนรอบตัวเรา สังคม โลก และทั้งจักรวาล

สิ่งนี้นำมาซึ่งความความภาคภูมิใจในตนเอง เมื่อเราได้ตระหนักถึงความดีงามภายใน ก็จะทำให้เกิดความเคารพตนเอง  การมีความเคารพตนเองจะทำให้เราสามารถนำสิ่งดีงามนั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิต  เริ่มต้นที่ตัวเรา และปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน 

เมื่อความดีงามนั้นหยั่งรากลงไปในจิตใจ ก็จะค่อยๆ สร้างมุมมองและการรับรู้ใหม่ให้กับเรา  มุมมองและการรับรู้อันเกิดจากทัศนคติที่ดี บนพื้นฐานของความเป็นจริง ทำให้เราสามารถเห็นประโยชน์ และแง่มุมที่ดีได้จากทุกสถานการณ์  สิ่งนี้จะทำให้เราเป็นอิสระจากความกังวล ความก้าวร้าว ความเกลียดชัง ความเป็นศัตรู ความโกรธ หรือความไม่พอใจ

การได้รู้จักและเข้าใจตนเองมากขึ้น ผ่านกระบวนการแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ไม่เพียงแต่สร้างเสริมพลังแห่งความดีงามอันเป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตของเรา  แต่ยังนำเราไปรู้จัก ไปเข้าใจเกี่ยวกับอะไรที่เป็นด้านมืด ความบกพร่อง หรือความอ่อนแอในตัวเรา  สิ่งที่เป็นเหมือนรูรั่ว รอยร้าว หรือบาดแผลที่ฝังรากลึกในจิตใต้สำนึกของเราแต่ละคน ร่องรอยที่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำและความประทับใจอันเกิดมาจากอดีต ความเจ็บปวดจากบาดแผลเหล่านั้นจะได้รับการเยียวยาด้วยพลังแห่งการตระหนักรู้ในตนเองด้วยเช่นกัน

♈️ผู้ที่มีการตระหนักรู้ในคุณค่าของชีวิต เป็นคุณลักษณะที่แสดงถึงสุขภาวะด้านจิตวิญญาณ การรู้จักตนเอง การศรัทธาในความดี การเห็นคุณค่าตนเอง การรับรู้และเข้าใจความทุกข์ การให้อภัย เข้าใจและเห็นใจผู้อื่น 

 มีความรักความเมตตาเอื้ออาทรต่อกัน มีสุขภาพจิตดี มีความสุข เกิดปัญญามองเห็นธรรมชาติตามความเป็นจริง ลดความเห็นแก่ตัว มีพลังใจที่เข้มแข็งเพื่อพัฒนาตนเองให้ดําเนินชีวิตตามเป้าหมายที่วางไว้  มีแหล่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่ช่วยให้สามารถก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้

การตระหนักรู้ในตนเอง จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และเลือกตัดสินใจในการควบคุม และบริหารจัดการตนเองได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่การพัฒนาตนเองที่มีประสิทธิภาพ มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต